ถ้ามีบ้านพักพูลวิลล่าอยู่ในมือ แล้วอยากให้ปล่อยเช่าได้เรื่อย ๆ มีลูกค้าเข้าพักตลอด ไม่เงียบเหงาเหมือนบ้านร้าง บอกเลยว่าไม่จำเป็นต้องเป็นมือโปร หรือมีประสบการณ์การตลาดอะไรมากมายก็เริ่มต้นได้ครับ เพราะการทำให้พูลวิลล่าของเราขายดี มีคนจองแน่นตลอดปี ไม่ได้ยากอย่างที่คิด แค่รู้วิธีวางแผนให้ถูกจุด ใช้เครื่องมือให้เป็น และใส่ใจในรายละเอียดบางอย่าง บทความนี้จะพาไปรู้จักกับเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ใครก็ทำตามได้ สำหรับเจ้าของพูลวิลล่ามือใหม่ในนครนายก หรือจังหวัดท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่อยากปล่อยเช่าให้ได้ผลจริง พร้อมแชร์เทคนิคแบบไม่มีกั๊ก ไม่ต้องลงทุนเยอะ ก็เรียกลูกค้าได้ครับ!
เคล็ดลับที่ 1 : ถ่ายรูปบ้านให้สวย ดูดีตั้งแต่แรกเห็น
รูปภาพ คือสิ่งแรกที่ลูกค้าเห็นเวลาเลื่อนดูบ้านพักในเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มจองต่าง ๆ
ถ้ารูปไม่สวย มืด หรือดูไม่ชวนพัก ลูกค้าก็อาจเลื่อนผ่านไปโดยไม่คิดอะไรเลยครับ
ดังนั้น…การถ่ายภาพให้บ้านพักดูดีตั้งแต่แรกเห็นจึงเป็นเรื่องที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด! ไม่ต้องกล้องโปร ไม่ต้องจ้างช่างภาพก็ทำให้ภาพดูน่าจองได้ ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ เหล่านี้ครับ
-
ถ่ายตอนกลางวัน แสงธรรมชาติช่วยได้เยอะ
พยายามถ่ายภาพในช่วงสายถึงบ่าย เพราะแสงธรรมชาติจะช่วยให้บ้านดูสดใส ไม่หม่นหมอง
แนะนำ: เปิดไฟทุกดวงตอนถ่ายด้วย จะช่วยให้ภาพดูอบอุ่น เป็นมิตร และน่าพักมากขึ้นครับ
-
ถ่ายให้ครบหลายมุม โดยเฉพาะจุดเด่นของบ้าน
อย่าถ่ายแค่ห้องนอนกับห้องน้ำ! บ้านพักพูลวิลล่ามักมีมุมเด็ด ๆ อย่าง
- สระว่ายน้ำ
- มุมบาร์บีคิว
- วิวธรรมชาติ
- โซนนั่งเล่นกลางแจ้ง
แนะนำให้ถ่ายหลายมุม หลายมิติ ทั้งภาพมุมกว้างและภาพโคลสอัป จะช่วยให้ลูกค้าจินตนาการได้ว่าพักแล้วจะรู้สึกยังไงครับ
-
จัดบ้านให้เรียบร้อยก่อนถ่าย
บางครั้งบ้านสวยอยู่แล้ว แต่พอถ่ายออกมา กลับดูรกหรือไม่เป็นระเบียบ เช่น
- ผ้าปูเตียงยับ ๆ
- ของใช้วางกระจัดกระจาย
- ถังขยะล้น / มีเสื้อผ้าแขวนตากอยู่
แค่เก็บของ ปูเตียงให้เรียบ ๆ และจัดโต๊ะให้น่านั่ง ก็ช่วยให้ภาพดูมืออาชีพขึ้นมาทันทีเลยครับ
เคล็ดลับที่ 2 : เขียนรายละเอียดให้ครบ โดนใจคนหา
หลายคนอาจคิดว่า แค่โพสต์รูปบ้านสวย ๆ ก็พอแล้ว…แต่จริง ๆ แล้ว “คำอธิบายบ้านพัก” ก็สำคัญไม่แพ้กันครับ! เพราะลูกค้ากำลังมองหาสถานที่ที่ ตอบโจทย์ทริปของเขา ถ้าข้อมูลไม่ครบ อ่านแล้วงง เขาอาจเลือกไปพักที่อื่นแทนได้ง่าย ๆ เลยครับ มาดูเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณเขียนรายละเอียดบ้านพักให้ลูกค้าเข้าใจได้ในพริบตา:
-
บอกให้ชัดว่า “พักได้กี่คน”
อย่าปล่อยให้ลูกค้าต้องเดาเอง เช่น “บ้าน 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พักได้ 8 คนสบาย ๆ” ใส่ให้ครบทั้งจำนวนคนที่พักได้ และขนาดบ้านโดยรวมครับ
-
สรุปให้ครบว่า “บ้านมีอะไรบ้าง”
ลูกค้าหลายคนอยากรู้ว่า
- มีกี่ห้องนอน ห้องน้ำ?
- มีครัวไหม? เตาไมโครเวฟ? ตู้เย็น?
- ปิ้งย่างได้หรือเปล่า? มีเตาปิ้งหรือไม่?
เขียนให้เห็นภาพไปเลย เช่น “บ้านมีครัวเล็กพร้อมอุปกรณ์ครบ เตรียมหมูกระทะมาก็ปิ้งได้ทันที!”
-
บอกโลเคชันให้เข้าใจง่าย
อย่าบอกแค่ “อยู่สาริกา” เพราะบางคนอาจไม่รู้ว่าสาริกาอยู่ตรงไหน ให้บอกว่าใกล้ที่เที่ยวอะไร เช่น
“เดินทางสะดวก ใกล้น้ำตกนางรองแค่ 5 นาที ขับรถจากกรุงเทพฯ ไม่ถึง 2 ชั่วโมง” ข้อมูลแบบนี้ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมากเลยครับ
-
ใช้ภาษาที่เป็นกันเอง อ่านแล้วไม่เครียด
ไม่ต้องใช้ภาษาทางการเกินไป แค่เขียนให้เหมือนเล่าให้เพื่อนฟัง เช่น
- “หลังนี้มีสระส่วนตัว เหมาะกับปาร์ตี้กลุ่มเล็ก ๆ สุด ๆ”
- “มีห้องนอนพร้อมแอร์ทุกห้อง ไม่ต้องแย่งกัน”
- “บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนจริง ๆ”
เคล็ดลับที่ 3 : ตั้งราคาน่ารัก มีโปรโมชั่นช่วงพีค
ไม่ว่าจะขายอะไร “ราคา” ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้คนตัดสินใจ โดยเฉพาะกับบ้านพักพูลวิลล่า ลูกค้าส่วนใหญ่จะ เปิดหลายแท็บ เปรียบเทียบหลายที่ก่อนจอง ดังนั้นราคาของเราต้อง สมน้ำสมเนื้อกับสิ่งที่ให้ และถ้ามี “โปรโมชันดี ๆ” ก็ช่วยดึงดูดใจลูกค้าได้อีกเยอะเลยครับ! มาดูเทคนิคง่าย ๆ ที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจไวขึ้น
-
ตั้งราคาให้สมเหตุสมผล
อย่าตั้งสูงเกินไปเพราะกลัวไม่คุ้ม และก็อย่าต่ำจนดูไม่น่าไว้ใจ ให้ดูองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น
- บ้านพักรองรับกี่คน?
- มีสระส่วนตัวไหม?
- ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวแค่ไหน?
- มีของแถม/สิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง?
เช่น “ พูลวิลล่า 3 ห้องนอน พักได้ 8 คน พร้อมครัว ปิ้งย่างได้ ราคาเริ่มต้นเพียง 4,900 บาท/คืน”
-
ออกโปรโมชันที่โดนใจลูกค้า
โปรเด็ด ๆ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า “คุ้มกว่า” ที่อื่น และตัดสินใจเร็วขึ้นครับ ตัวอย่างโปรที่ใช้ได้ผลดี
- จอง 2 คืน ลด 10%
เหมาะกับกลุ่มที่อยากพักยาวหน่อย ได้ทั้งยอดจองเพิ่ม แถมไม่ต้องทำความสะอาดบ่อย - จองวันธรรมดา รับฟรีหมูกระทะ
ช่วยดึงลูกค้าให้มาในวันธรรมดา ซึ่งปกติจะเงียบกว่า - รับส่วนลดทันที เมื่อแคปโพสต์โปรโมตลงโซเชียล
ได้ทั้งยอดจอง + โปรโมตฟรีไปในตัว!
-
ทำให้โปรฯ น่าสนใจ อ่านแล้วเข้าใจง่าย
ใช้ภาษาที่เป็นกันเอง ชวนให้อยากจอง เช่น
- “วันธรรมดานี้ แถมฟรีหมูกระทะเต็มชุด!”
- “อยากอยู่ยาว เราลดให้! พัก 2 คืน ลดทันที 10%”
- “แชร์โพสต์นี้ รับส่วนลด 300 บาท ง่ายเวอร์!”
เคล็ดลับที่ 4: ลงประกาศในที่ที่ลูกค้ากำลังมองหา
บ้านพักจะสวยแค่ไหน ราคาดีแค่ไหน ถ้าไม่มีใครเห็น… ก็ยากที่จะมีคนจองครับ!
ดังนั้นสิ่งที่เจ้าของบ้านพักควรทำคือ อย่ารอให้ลูกค้ามาเจอเอง แต่เราต้อง “ออกไปหาลูกค้า” ด้วย
การโปรโมตให้ถูกช่องทาง จะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย และมีโอกาสปิดการจองได้ไวขึ้นเยอะเลยครับ
-
ลงประกาศในแพลตฟอร์มยอดนิยม
แพลตฟอร์มอย่าง Airbnb, Booking.com หรือ Agoda คือ “สนามหลัก” สำหรับนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมาหาที่พัก แค่ลงประกาศให้ครบ ถ่ายรูปสวย ใส่ข้อมูลให้ชัด ก็ช่วยให้บ้านของคุณมีโอกาสเจอลูกค้าใหม่ ๆ ได้ทุกวัน
เคล็ดลับ:
- เขียนชื่อบ้านให้น่าสนใจ เช่น “พูลวิลล่าชิค ๆ กลางธรรมชาตินครนายก”
- ใส่ข้อมูลครบ เช่น จำนวนห้อง, มีสระไหม, ปิ้งย่างได้หรือเปล่า
- ตั้งราคาให้เหมาะกับช่วงเวลา เช่น ลดราคาวันธรรมดา
-
โพสต์ในกลุ่ม Facebook ที่เกี่ยวข้อง
กลุ่ม Facebook คือ “ขุมทอง” ของคนหาที่พักแบบไม่ต้องเสียค่าโฆษณา
มีหลายกลุ่มที่มีคนติดตามเยอะ เช่น
- พูลวิลล่านครนายก
- ที่พักพร้อมสระน้ำ
- บ้านพักใกล้น้ำตก
เคล็ดลับ :
- โพสต์รูปเยอะ ๆ โดยเฉพาะมุมสวย ๆ อย่างสระว่ายน้ำ หรือวิวภูเขา
- เขียนแคปชั่นให้โดน เช่น “บ้านพักเปิดใหม่! วิวดี บรรยากาศดี มีหมูกระทะให้ด้วย!”
- อย่าลืมใส่ช่องทางติดต่อให้ชัดเจน เช่น เบอร์โทร / LINE / Facebook
-
ทำเพจบ้านพักของตัวเอง
ถ้าคุณคิดจะปล่อยเช่าระยะยาว แนะนำเลยว่า ควรมีเพจ Facebook ของบ้านพัก
จะได้อัปเดตรูปใหม่ ๆ รีวิวจากลูกค้า และโปรโมชันประจำเดือนได้ตลอด
เคล็ดลับ:
- ตั้งชื่อเพจให้จำง่าย เช่น “บ้านชิลล์พูลวิลล่า นครนายก”
- ลงรูปเป็นอัลบั้ม เช่น “บรรยากาศยามเย็น”, “ลูกค้าประทับใจ”
- ไลฟ์บ้างเป็นครั้งคราว เพิ่มความน่าเชื่อถือ และเข้าถึงคนง่ายขึ้นครับ
-
บริการดี ตอบแชทไว = โอกาสปิดการจองสูง
ช่องทางโปรโมตดีแค่ไหน ถ้าตอบแชทช้า หรือพูดจาไม่ดี ลูกค้าก็อาจไปจองที่อื่นแทน
เพราะฉะนั้น ความใส่ใจในการตอบแชทสำคัญมาก!
เคล็ดลับ :
- ตอบไวภายใน 5-10 นาที (ถ้าทำได้)
- ใช้ภาษาสุภาพ เป็นกันเอง เช่น “ยินดีต้อนรับนะคะ” หรือ “สะดวกสอบถามเพิ่มเติมได้เลยครับ”
- ถ้ามีรีวิวจากลูกค้าเก่า ส่งให้ดูประกอบการตัดสินใจ
เคล็ดลับที่ 5 : บริการดี ประทับใจ ลูกค้าอยากกลับมาอีก
บ้านพักพูลวิลล่าที่ดี ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้อง “ให้ความรู้สึกเหมือนบ้าน” ด้วยครับ
เพราะลูกค้ามาเที่ยวก็อยากได้ความสะดวกสบาย ไม่ต้องคิดเยอะ และรู้สึกผ่อนคลายตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามา ถ้าบริการดี ประทับใจตั้งแต่ต้น ก็มีโอกาสได้รีวิวดี และได้ลูกค้ากลับมาซ้ำ หรือบอกต่อได้ง่ายมากเลยครับ
-
เตรียมน้ำดื่ม ขนม และของใช้จำเป็นไว้ให้พร้อม
ของเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ อาจดูธรรมดา แต่ช่วยเพิ่มความรู้สึกว่าเจ้าของบ้านใส่ใจ เช่น น้ำดื่มเย็น ๆ ในตู้เย็น ขนมต้อนรับ หรือของใช้พื้นฐานอย่างแปรงสีฟัน ทิชชู่ ผ้าเช็ดตัวครบชุด ลูกค้าหลายคนประทับใจจุดนี้มาก เพราะไม่ต้องพกของมาหลายอย่างครับ
-
บ้านสะอาดทุกจุด ห้องน้ำไม่มีกลิ่น
เรื่องความสะอาดคือ “พื้นฐาน” ที่ลูกค้าทุกคนคาดหวัง ควรเก็บห้องให้เรียบร้อย ปัดฝุ่น เช็ดกระจก ล้างห้องน้ำให้ไร้กลิ่น และเตียงนอนต้องปูให้ตึงสวย บ้านที่สะอาด จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจและอยากถ่ายรูปโพสต์รีวิวครับ
-
แนะนำร้านอาหารเด็ด หรือจุดเช็กอินใกล้บ้านพัก
ลูกค้าหลายคนมาเที่ยวแบบไม่ได้วางแผนมากนัก ถ้ามีแผ่นแนะนำ หรือแม้แต่แชทส่งพิกัดร้านอาหารอร่อย ๆ คาเฟ่น่านั่ง หรือที่เที่ยวใกล้บ้าน เขาจะรู้สึกเหมือนมี “เจ้าบ้านใจดี” คอยดูแลเลยครับ
-
ทักทายด้วยความจริงใจ เพิ่มความเป็นกันเอง
บริการดีเริ่มตั้งแต่การ “พูดจาน่ารัก” โทรต้อนรับก่อนวันเข้าพัก หรือวางโน้ตเล็ก ๆ ทักทายลูกค้าในบ้าน พร้อมคำแนะนำเล็ก ๆ เช่น “ยินดีต้อนรับค่ะ พูลวิลล่านี้เหมาะกับการพักผ่อนเต็มที่ มีอะไรกดโทรหาเราได้เลยนะ” แค่นี้ก็ทำให้ลูกค้ายิ้มได้แล้วครับ
สรุป
เห็นมั้ยครับว่า การปล่อยเช่าพูลวิลล่าให้มีลูกค้าแน่นไม่ใช่เรื่องไกลตัวหรือยากเกินไป แม้จะไม่ใช่มือโปรก็ทำได้ ขอแค่ใส่ใจในรายละเอียด ปรับวิธีคิด และกล้าลงมือทำ ทำบ้านให้น่าอยู่ มีจุดเด่นที่ลูกค้ารู้สึก “ว้าว” , ถ่ายภาพสวย โพสต์ให้โดนใจ ใช้แพลตฟอร์มให้เป็น , ตอบแชทไว บริการดี ใส่ใจทุกรีวิว และอย่าลืมอัปเดตโปรโมชันตามฤดูกาลด้วยนะครับ การปล่อยเช่าพูลวิลล่าไม่ใช่แค่เรื่องของ “ทำเลดี” แต่คือการ “ทำให้ลูกค้ารู้สึกดี” ด้วย ถ้าทำครบ ลูกค้ามาแน่นอนครับ