ในยุคที่การทำงานไม่จำเป็นต้องอยู่แค่ในออฟฟิศอีกต่อไป หลายคนเริ่มหันมาใช้ชีวิตแบบ “Workation” หรือการทำงานควบคู่ไปกับการพักผ่อนที่ต่างจังหวัดกันมากขึ้น โดยเฉพาะในสถานที่ที่สงบ มีธรรมชาติ และเดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อย่างจังหวัดนครนายก กำลังกลายเป็นจุดหมายใหม่ของเหล่าคนทำงานยุคใหม่ แน่นอนว่าเทรนด์นี้ไม่ได้ส่งผลแค่กับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสใหม่ให้กับเจ้าของบ้านพัก และนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ด้วยเช่นกัน ใครที่มีบ้านพักอยู่แล้ว หรือกำลังคิดจะลงทุนปล่อยเช่าในช่วงนี้ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า “Workation” มีผลต่อการปล่อยเช่าบ้านพักอย่างไร และเราจะใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่าได้อย่างไรบ้าง
Workation คืออะไร? ทำไมถึงกลายเป็นกระแสในยุคนี้
“Workation” มาจากการรวมกันของคำว่า Work (ทำงาน) และ Vacation (พักผ่อน)
แปลตรงตัวก็คือ การทำงานไปด้วย เที่ยวหรือพักผ่อนไปด้วยนั่นเองครับ ซึ่งในอดีต การทำงานต้องนั่งอยู่ในออฟฟิศ แต่ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไปแล้ว โดยเฉพาะหลังโควิด หลายบริษัทเริ่มปรับนโยบายให้พนักงานทำงานจากที่ไหนก็ได้ หรือที่เรียกว่า Remote Work ซึ่งทำให้คนเริ่มตั้งคำถามว่า
“ในเมื่อเราทำงานจากที่ไหนก็ได้… แล้วทำไมจะต้องอยู่แค่บ้านล่ะ?” นั่นแหละครับ คำตอบก็คือ Workation! ซึ่งสิ่งที่ทำให้หลายคนชอบ Workation นั่นก็เป็นเพราะ
- เปลี่ยนบรรยากาศ ลดความเครียด
การเปลี่ยนที่ทำงานจากห้องสี่เหลี่ยม มาเป็นบ้านพักที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติหรือวิวสวย ๆ ช่วยให้รู้สึกสดชื่นและมีพลังในการทำงานมากขึ้น - บาลานซ์ชีวิตได้ดีขึ้น
เช้าเปิดโน้ตบุ๊กทำงาน บ่ายพักไปเดินป่า เที่ยงออกไปกินของอร่อย เย็นจิบกาแฟหน้าระเบียง ได้ทั้งงานและการพักผ่อนในทริปเดียว - เหมาะกับคนรุ่นใหม่
เด็กรุ่นใหม่ไม่ได้ต้องการแค่ “เงินเดือน” แต่ต้องการ “คุณภาพชีวิต” ด้วย Workation จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากขึ้นเรื่อย ๆ
เทรนด์ Workation ส่งผลต่อเจ้าของบ้านพักอย่างไรบ้าง?
เมื่อไลฟ์สไตล์ของคนทำงานเปลี่ยนไป จากที่เคยลาพักร้อนสั้น ๆ มาเที่ยวไม่กี่วัน
ตอนนี้กลับเลือกที่จะ “อยู่ยาว ๆ ทำงานจากที่พักได้เลย” เทรนด์นี้ไม่ใช่แค่ดีต่อคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีแบบชัดเจนต่อเจ้าของบ้านพักอย่างเรา ๆ ด้วยครับ
ได้ลูกค้าที่เช่าระยะยาวมากขึ้น
จากเดิมลูกค้ามักจะเช่าแค่ 1-2 คืน แต่พอเป็น Workation หลายคนอยู่ยาวเป็นอาทิตย์ หรือบางทีก็อยู่เป็นเดือน ยิ่งถ้าเรามีโปรราคาพิเศษสำหรับ “พักระยะยาว” ก็ยิ่งดึงดูดใจ และช่วยให้ห้องไม่ว่างบ่อย
รายได้สม่ำเสมอขึ้น
ลูกค้าอยู่ยาว = รายได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องเหนื่อยรับ-ส่งแขกทุกวัน ไม่ต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ เหมือนตอนปล่อยเช่ารายวัน แถมยังช่วยลด “ช่วงห้องว่าง” (vacancy rate) ได้อีกด้วย
ปรับบ้านครั้งเดียว ใช้ได้ยาว
บ้านพักที่ตอบโจทย์ Workation ไม่จำเป็นต้องหรูหรา แค่มี Wi-Fi แรง ๆ โต๊ะทำงานสบาย ๆ และบรรยากาศน่าอยู่ ก็เพียงพอแล้ว เจ้าของบ้านแค่ลงทุนปรับจุดเล็ก ๆ ก็สามารถเพิ่มมูลค่าให้บ้านได้เยอะเลยครับ
ได้กลุ่มลูกค้าใหม่ ที่มีกำลังจ่าย
คนที่เลือกทำ Workation มักเป็นคนวัยทำงานที่มีรายได้ประจำ บางคนเป็นฟรีแลนซ์ บางคนเป็นพนักงานบริษัทระดับกลางถึงสูง ลูกค้ากลุ่มนี้มีกำลังจ่ายและคาดหวังคุณภาพที่ดีขึ้น เจ้าของบ้านพักจึงสามารถตั้งราคาค่าเช่าในระดับที่เหมาะสมโดยไม่ต้องลดแลกแจกแถมมาก
มีโอกาสปั้นแบรนด์ของตัวเอง
ถ้าบ้านพักของเรามีเอกลักษณ์ มีบริการดี ๆ เช่น กาแฟดี เครื่องเขียนพร้อม ชุดโต๊ะทำงานวิวธรรมชาติ ฯลฯ ลูกค้าจะบอกต่อ ช่วยรีวิว ทำให้แบรนด์ของเราน่าเชื่อถือขึ้น และสร้างฐานลูกค้าประจำได้ง่ายขึ้น
ถ้าอยากปล่อยเช่าบ้านพักให้ตรงเทรนด์ Workation ควรเตรียมอะไรบ้าง?
เทรนด์ Workation กำลังมาแรง และใครที่มีบ้านพักอยู่ในจังหวัดน่าเที่ยว บรรยากาศดีอย่างนครนายก ก็คงเริ่มอยากปรับบ้านให้ตอบโจทย์สายทำงาน + พักผ่อนบ้างแล้วใช่ไหมครับ คำถามคือ… ถ้าอยากให้บ้านของเราปล่อยเช่าได้ตรงใจกลุ่ม Workation ต้องเตรียมอะไรบ้าง? มาดูเช็กลิสต์ง่าย ๆ กันเลยครับ
อินเทอร์เน็ตต้องแรงและเสถียร
Workation = ทำงานออนไลน์ อินเทอร์เน็ตคือหัวใจสำคัญที่สุด ถ้าสัญญาณหลุด โหลดช้า ประชุมกระตุก รับรองลูกค้าหายแน่นอนครับ แนะนำให้ติด Wi-Fi ความเร็วสูง พร้อมเร้าเตอร์คุณภาพดี
มี “มุมทำงาน” จริงจัง
ไม่ต้องถึงกับจัดเป็นโฮมออฟฟิศ แค่มีโต๊ะ เก้าอี้ดี ๆ สักชุด แสงสว่างเพียงพอ ปลั๊กไฟพร้อม และบรรยากาศเงียบสงบ ก็ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่า “บ้านหลังนี้ทำงานได้จริง”
เฟอร์นิเจอร์ครบ ใช้ชีวิตง่าย
ลูกค้าที่มา Workation ส่วนใหญ่จะอยู่หลายวัน ดังนั้นห้องต้องพร้อมใช้ มีเครื่องครัว ตู้เย็น ไมโครเวฟ กาน้ำร้อน และเครื่องนอนที่นอนสบาย ๆ ไม่แข็งเกินไป
บรรยากาศน่าพักผ่อน
ถ้ามีระเบียง วิวภูเขา หรือสวนเล็ก ๆ ก็เพิ่มคะแนนได้เยอะเลยครับ บางคนอยากนั่งทำงานริมหน้าต่าง มองวิวเขียว ๆ เพื่อคลายเครียด แค่ตกแต่งด้วยต้นไม้ หรือมีโซนนั่งชิล ก็ช่วยให้บ้านดู “น่าอยู่” มากขึ้น
ความสะอาดและความปลอดภัยต้องมาก่อน
คนที่มาทำ Workation จะอยู่ยาว ดังนั้นเขาจะเลือกบ้านที่ดูปลอดภัย สะอาด ดูแลง่าย ยิ่งถ้ามีบริการทำความสะอาดเป็นรอบ ๆ หรือมีอุปกรณ์ทำความสะอาดให้ก็ยิ่งดีครับ
มีรีวิวหรือรูปถ่ายที่ตรงความจริง
รูปถ่ายบ้านควรชัดเจน เห็นบรรยากาศจริง ไม่แต่งเวอร์จนเกินจริง เพราะลูกค้ากลุ่มนี้มักเลือกจากรีวิวและรูปก่อนจองเสมอ
Workation ทำให้ “จุดคุ้มทุน” มาไวขึ้นจริงหรือไม่?
สาเหตุที่ทำให้ Workation สามารถทำให้ได้จุดคุ้มทุนได้ไว นั่นเป็นเพราะว่า..
ลูกค้าอยู่ยาว รายได้ต่อเนื่อง
ลูกค้าที่มาทำ Workation มักจะพักตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป บางรายอยู่เป็นสัปดาห์ หรือแม้แต่เป็นเดือน
จากเดิมที่คุณปล่อยเช่ารายวัน ต้องลุ้นทุกคืนให้มีแขก แต่พอเป็น Workation แค่ลูกค้ากลุ่มเดียวก็ปิดรายได้ไปได้หลายวันแล้วครับ
ยกตัวอย่างง่าย ๆ
ถ้าคุณปล่อยเช่าคืนละ 2,000 บาท
ลูกค้า Workation อยู่ 10 วัน = รายได้ 20,000 บาท
ไม่ต้องทำความสะอาดหรือจัดเตรียมห้องใหม่ทุกวันด้วย
ค่าใช้จ่ายแปรผันลดลง
การปล่อยเช่าระยะยาวช่วยลดต้นทุนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรามองข้าม เช่น
- ค่าทำความสะอาด
- ค่าซักผ้าปู ผ้าเช็ดตัว
- ค่าเดินทางไปดูแลบ้านบ่อย ๆ
ลูกค้าอยู่ยาว เราดูแลน้อยลง ค่าใช้จ่ายก็ลดลง กำไรต่อเดือนก็เพิ่มขึ้นครับ
มีโอกาสปรับราคาสำหรับกลุ่มเฉพาะ
ลูกค้ากลุ่ม Workation ส่วนมากมีกำลังจ่าย และให้ความสำคัญกับคุณภาพของที่พักมากกว่าราคาถูก ๆ ถ้าบ้านพักของคุณตอบโจทย์ เช่น มีโต๊ะทำงาน Wi-Fi แรง บรรยากาศดี คุณสามารถตั้งราคาที่สูงกว่าบ้านเช่าทั่วไปได้อย่างไม่ยาก
ลองคำนวณง่าย ๆ : สมมุติว่าคุณลงทุนบ้านพัก 1 หลังในนครนายก ใช้ทุนรวมประมาณ 1,000,000 บาท ปล่อยเช่ารายวันคืนละ 2,000 บาท แต่คุณมีลูกค้า Workation มาพักเฉลี่ยเดือนละ 15 คืน
รายได้ต่อเดือน = 2,000 × 15 = 30,000 บาท
จุดคุ้มทุน = 1,000,000 ÷ 30,000 ≈ 34 เดือน หรือประมาณ 2 ปี 10 เดือน
หากเทียบกับการปล่อยเช่ารายวันแบบกระจัดกระจาย หรือมีแขกไม่เต็มเดือน จุดคุ้มทุนอาจลากยาวถึง 4-5 ปีเลยทีเดียวครับ
สรุป
เทรนด์ Workation ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว แต่กลายเป็นวิถีชีวิตใหม่ของคนทำงานยุคนี้ไปแล้ว ใครที่มีบ้านพักอยู่ในทำเลดี บรรยากาศสงบ เหมาะกับการทำงานและพักผ่อน ถือว่ากำลังอยู่ในจังหวะที่ใช่เลยครับ เพราะ Workation ทำให้คนเช่าอยู่ได้นานขึ้น รายได้สม่ำเสมอมากกว่าการปล่อยเช่ารายวันธรรมดา ถ้าเราปรับบ้านให้ตอบโจทย์ เช่น มีอินเทอร์เน็ตแรง ๆ มุมทำงานสบาย ๆ และบรรยากาศดี ๆ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการปล่อยเช่าให้เต็มตลอดทั้งปี แถมยังช่วยให้คืนทุนไวขึ้นอีกด้วย